ลาสเวกัส (Las Vegas) หรือฉายาเค้าคือ Sin City แปลได้ว่าเมืองคนบาป อยู่ในรัฐเนวาดา (Nevada) ถ้าพูดถึงลาสเวกัส คนส่วนใหญ่ก็ต้องนึกถึงการพนัน คาสิโน เนอะ แต่เราไม่ได้มาเสี่ยงโชคอะไร มาพักผ่อนอย่างเดียวเลย เพราะไม่เคยมีโชคจากของพวกนี้ เมืองนี้เป็นเมืองแห่งแสงสี ไนท์ไลฟ์ด้วยนะ ไม่ได้เด่นเรื่องคาสิโนอย่างเดียวคิดว่าน่าจะเป็นแรงดึงดูดหลักอีกอย่างที่ทำให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามา
ลาสเวกัสน่ะมีสองส่วนคือ ดาวน์ทาวน์ (Downtown) และเดอะสตริป (The Strip) เราเลือกพักกันที่โรงแรม ARIE เพิ่งสร้างใหม่ บนเดอะสตริป (The Strip) เราว่าคนชอบเที่ยวและพักบนเดอะสตริปมากกว่านะเพราะมีโรงแรมหรูหราชั้นนำ อลังการงานสร้างมากและ shopping mall มากมาย ทริปนี้เตรียมรองเท้ามาสองสามคู่ไว้คอยสับเปลี่ยน เพราะว่าต้องเดินตลอดๆ ขับรถไม่สะดวกเนื่องจากสถานที่แต่ละแห่งอยู่ติดๆกัน ไอ้เจ้าเดอะสตริป ก็ยาวตั้ง 6 กม (แถมอากาศร้อนและแห้งดีแท้) สรุป การเดินก็คือวิธีที่สะดวกที่สุดถ้ามาเที่ยวที่นี่
มาดูรูปกันดีกว่า บรรยากาศที่นี่ตระการตาด้วยแสง สี เสียง ก็ดูดีในแบบที่เค้าเป็นไปอีกแบบ งานหลักของเราก็คือ ถ่ายรูปร่วมกับสถานที่ต่างๆ แล้วก็ shopping ตามแบบฉบับ 55 จะบอกว่าก่อนมาเที่ยวไม่ได้ดูหรือศึกษาที่เที่ยวมาก่อนเลยไม่รู้ว่าต้องไปถ่ายรูปจากมุมไหนตรงไหนถึงจะสวย รูปที่ได้มาก็คือเดินไป ถ่ายไปเลยได้มาประมาณนี้ล่ะ
ปล. ใช้กล้องกระจอกถ่ายรูปตอนกลางคืนเลยไม่ค่อยชัดเท่าไร
ออกจากสนามบินได้ถ่ายกับป้าย welcome อันเดียวในสนามบิน คิดไว้ในใจว่าชั้นจะไปถ่ายกับป้าย Welcome to LAS VEGAS ที่อยู่บน Las Vegas Blvd หรือ The strip อันที่นักท่องเที่ยวชอบไปถ่าย สุดท้ายก็ไม่ได้เก็บรูปมา
จากสนามบินก็นั่งรถของโรงแรมมาก็เก็บภาพไปเรื่อยๆ
ผ่านโรงแรม Mandaray Bay Resort and Casio ใหญ่ดีจริง ถ้าใครอยากดูฉลามหรือโลกใต้ท้องทะเลก็มาดูได้ที่นี่
รถแล่นผ่านปราสาทแห่งคิงอาเธอร์ที่ Excalibur Hotel and Casino สวยงามมาก เดี๋ยวเดินกลับมาเที่ยวชมใหม่
ในที่สุดก็มาถึงโรงแรม หรูหราสมราคาจริงๆ
เอาของเก็บแล้วก็ไม่รอช้า หิวมาก ออกไปหาข้าวเย็นกินพร้อมชมบรรยากาศยามค่ำคืนบน the Strip กันเลย
บรรยากาศหน้าโรงแรม
บรรยากาศหน้าโรงแรม
หาข้าวกินใน Miracle Mile ไม่ไกลจากโรงแรมมากนัก ห้างเค้าเก๋อ่ะ ทำเพดานเป็นท้องฟ้า เหมือนเราเดินอยู่กลางแจ้ง
กินข้าวเสร็จก็เดิน shopping ย่อยอาหารนิดหน่อย แล้วก็ออกไปเดินชมแสงสียามค่ำคืนบน The Strip กัน
สิงโตมหึมา หน้าโรงแรม MGM
เดินกลับอีกครั้งที่ปราสาทในเทพนิยายของเรา แต่เหนื่อยโฮก เลยขี้เกียจเดินเข้าไปข้างในซะงั้น >_<
หน้าโรงแรม ARIE ที่พัก
มาดูบรรยากาศตอนกลางวันบน The Strip กันมั่งดีกว่า
ก็องโดล่า (Gondola) ที่โรงแรม The Venetian
Eiffel Tower restaurant
โรงแรม Caesars Palace
จากโรงแรม Caesars Palace เดินข้ามสะพานที่เค้าทำเชื่อมกันไปยังโรงแรม Bellagio ได้ ที่โรงแรม Bellagio นี่แหล่ะที่มีการแสดงน้ำพุเต้นระบำอันเลื่องชื่อ ปรากฏว่าเดินไปเดินมาหลุดไปเจอสวน Botanical ในโรงแรมนี้แบบฟลุคจริงๆ ไม่รู้มาก่อนว่ามันมีอะไรสวยๆข้างในแบบนี้
Chandelier ดอกไม้หลากสี ในโรงแรม Bellagio
สระน้ำที่ทางโรงแรม Bellagio เอาไว้โชว์ระบำน้ำพุ
หอไอเฟิลถ่ายมาจากด้านโรงแรม Bellagio
แยก Flamingo ที่รวมโรงแรมใหญ่ๆไว้แถวนี้
เดินมาดูตึกของเมืองนิวยอร์ค และสะพานบรู๊คลินจำลองที่ New York New York มันมีรถไฟเหาะบนยอด New York New York ด้วยนะ แล้วก็เข้าไปหาข้าวกลางวันกินในนี้
แล้วก็แวะเข้าร้าน M&M World สักหน่อย
จะบอกว่าทริปนี้พลาดไม่ได้ดูน้ำพุเต้นระบำ ทำไมหนอ จำไม่ได้แล้ว (แต่ได้ดูโชว์นี้ตอนมาลาสเวกัสครั้งแรก) ครั้งนี้เห็นแค่ลิบๆแบบนี้ >_<
เดินกลับโรงแรมแล้ว เพลียขนาด
หมดแล้วทริปนี้ พลาดดูชมอะไรหลายๆอย่าง เช่น ไม่ได้ไปถ่ายรูปและไหว้พระพรหมที่คุณกำพล วัชรพล สร้างไว้ที่โรงแรม Caesars Palace ไม่ได้เข้าไปดูบรรยากาศของหมู่เกาะใน Treasure Island เป็นต้น ต่อไปนี้ก่อนไปเที่ยวไหนควรต้องศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อนเที่ยวจะได้ไม่พลาด กลับมาบ่นเสียดายอีก
เดี๋ยวทริปหน้าเราไปเที่ยวซานฟรานซิสโก แคลิฟอร์เนียกันจ้า ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะจ้ะทุกคน จุ๊บๆ
ชอบ ๆ เอาอีก ๆ อิอิ
ReplyDelete