Monday, November 5, 2012

เที่ยวละไม...ไปไกลๆบ้าน (Anniversary trip)...ตอนที่ 4

ปีที่4 แล้ว...เนื่องจากสามีไปประชุมกับลูกค้าที่ San Jose ที่แคลิฟลอเนียร์พอดี เลยได้โอกาสไปซานฟรานซิสโก (San Francisco) เมืองแห่งเนินเขา เราเดินทางมาจากบ้านคนเดียวแล้วไปหาสามีที่นั่น แล้วก็ขับรถกันจาก San Jose ไปซานฟรานซิสโก ครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่สองของเราที่เมืองนี้ ครั้งแรกก็ไปกะเพื่อนที่ทำงานอีกนั่นแหล่ะ ตอนที่บริษัทส่งไปเทรนที่ LA (เที่ยวกันเยอะมากกกก)
 
เริ่มเดินทางก็ได้เก็บภาพมานิดหน่อยระหว่างทางจาก San Jose ไป ซานฟราน แวะเป็นระยะๆ ดูวิวนั่นโน่นนี่ไปเรื่อย

 ห็นอยู่ไกลๆนั่นก็คือซานฟรานที่เรากะลังมุ่งหน้าไป






ซานฟรานซิสโกตั้งอยู่ที่ยอดปลายแหลมบนชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก มีระชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นมากที่สุดเป็นอันดับสองรองจาก New York เป็นเมืองที่ไม่ใหญ่มากนักนะเราว่า สามารถเดินเที่ยว หรือใช้บริการรถรางเที่ยวได้รอบเมืองภายในวันสองวัน และก็คิดว่าคนไทยเราค่อนข้างจะรู้จักเมืองนี้ดี มีคนไทยอาศัยอยู่เยอะด้วยนะ เดินไปทางไหนได้ยินเสียงคนไทยเป็นระยะๆ เป็นอีกหนึ่งเมืองยอดนิยมในอเมริกาที่นักท่องเที่ยวนิยมมา แล้วเราจะพลาดได้งัยใช่มั๊ย  แต่อย่างว่าแหล่ะเมืองสวยขนาด ดูโรแมนติกดี เราอยากอยู่นานๆเลย (ยังมีอีกหลายที่เลยที่อยากไป เช่น นิวยอร์ก, Austin เท็กซัส หวังว่าอนาคตคงได้ไป) ทริปนี้จองโรงแรมไว้ในดาวน์ทาวน์ อย่างหรูอ่ะ แต่จะบอกว่าค่าจอดรถที่โรงแรมจะแพงมาก ประมาณ 40 เหรียญต่อวันแหน่ะ อยู่สักอาทิตย์นี่คงกรอบบบ


 ของใช้ในห้องน้ำ อย่างหรู
พอพูดถึงซานฟรานซิสโก สิ่งแรกๆที่ผู้คนนึกถึงก็คงเป็น สะพานโกลเด้นเกท (Golden Gate) มีสีส้มเห็นเด่นชัดตระหง่านสวยงาม ซึ่งถือว่าสะพานนี้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองก็ว่าได้นะ เปิดใช้ตั้งแต่ปี 1937 และใช้เวลาสร้างอยู่นานถึงสี่ปี เคเบิ้ลสองเส้นใหญ่ที่สะพานแขวนอยู่หนาประมาณเกือบเมตร ยาวน่าจะประมาณ 2.5 กม ถามว่าทำไมสะพานทาสีส้ม ก็เพื่อให้บรรดาเรือที่เดินทางผ่านไปมาในอ่าวสังเกตเห็นได้ง่ายแม้ในยามที่มีหมอกลง



เกาะที่เห็นลิบๆอยู่นั้น คือเกาะอัลคาทราซ Alcatraz (ถ้าใครดูหนังเรื่อง "The Rock" คงจำคุกที่อยู่บนเกาะAlcatraz ที่นี่ได้) ปัจจุบันเค้ายกเลิกถุกนี้ไปแล้ว เกาะแห่งนี้เลยกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวของซานฟรานฯ

  

มาถึงซานฟรานซิสโกทั้งที นอกจาก่ายรูปแล้ว ก็ต้องขึ้นไปเหยียบสะพานโกลเด้นเกทกันซิจ้ะ...เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึงเมืองซานฟรานฯ ....แต่แหม พอขับไปถึงบนสะพานแค่นั้นล่ะฝนตกลงมายังกะฟ้ารั่ว >_< บดบังความสวยงามหมดเลย



ต่อไปเราก็ไปขึ้นรถรางชมเมืองกันดีกว่าเป็นอีกอย่างที่ห้ามพลาดเวลามาที่นี่ รถรางก็ถือเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของซานฟรานซิสโก.... รถรางจะวิ่งไปตามรางนั่นแหล่ะ ชอบนั่งมากเลยให้อารมณ์ไปอีกแบบ ระหว่างทางก็ดูวิวไป อากาศก็ดี มีความสุขที่สุด


เราจะขึ้นคันนี้กัน

 บนรถราง ได้มุมถ่ายแค่นี้แหล่ะ






นั่งรถรางมาลงกันที่ ฟิชเชอร์แมน วาร์ฟ (Fisherman’s Wharf) ซึ่งเป็นท่าเรือชาวประมง มันเป็นเหมือนสะพานปลานั่นแหล่ะจริงๆแล้ว เป็นท่าเรือสำหรับไปทัวร์เกาะ Alcatraz ด้วย นอกจากนี้ท่าเรือแถวนี้เป็นที่อาศัยของสิงโตทะเลด้วยนะ แต่ไมได้ถ่ายรูปมา จากตรงนี้สามารถมองเห็นอ่าวซานฟรานซิสโก และสะพาน Golden Gate ได้ แล้วก็มีร้านอาหารทะเลสดๆ ไว้รอต้อนรับนักท่องเที่ยวเยอะแยะไปหมด แต่ไม่ได้กินอะไรเลย รู้สึกว่ามันแพง





แล้วเดินต่อไปยังท่า Pier 9 เดินดูร้านค้าไปเรื่อยๆ  





 ขนมปัง 

 เกาะ Alcatraz ถ่ายจาก Fisherman’s Wharf

ใกล้ๆ กันกับ San Francisco Pier 39 คือ Ghirardelli Square ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกอันที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว เดินจาก Pier 39 ไป Ghirardelli Square ก็ไม่ไกลเลย Ghirardelli มันเป็นช็อคโกแล็ตเก่าแก่ของซานฟรานซิสโก ไม่ได้ซื้อช็อคโกแล็ตกลับบ้านหรอก เพราะเราสองคนไม่ค่อยชอบทานกัน สั่งช็อคโกแล็ตร้อนๆมากอนคนละแก้ว แล้วก็เดินกลับไปขึ้นรถรางกลับโรงแรม




วิวระหว่างทางไป Ghiradelli Square




หลังจากกินข้าวกลางวันแล้วก็ขับรถไปถนนลอมบาร์ด (Lombard Street) ถนนที่ชันและเลี้ยวลดคดเคี้ยวที่สุดในอเมริกา ใครที่ขับรถต้องมีทักษะในการขับรถพอสมควร...แต่ไม่ใช่เราแน่ๆ มาแล้วก็ต้องถ่ายรูปเป็นที่ระลึกไม่งั้นรู้สึกว่าไม่ได้มา เสร็จแล้วก็ขับรถวนกันบนถนนลำบาก นี่ล่ะถือเป็นประสบการณ์ 




 ถึงตาพวกเราขับลงไปมั่ง



วิวโดยรอบถายจากแถถนน Lombard




จริงๆอยากปิดท้ายของวันด้วยการไปชมวิวเมืองซานฟรานซิสโกจากยอด Twin Peaks แต่ก็ไม่ได้ไป ได้แค่ผ่านแค่นี้

ตกเย็นก็เดินแถวๆ Union Square ปิดท้ายทริปนี้ Union Square เป็นแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังของเมืองนี้และโรงแรมที่เราพักกันก็อยู่ย่านนี้แหล่ะ ถูกใจจริงๆ ต้องขอบคุณคุณสามีที่รู้ใจ



ตามด้วยอาหารไทย ชาเย็นและเบียร์ไทย 
 

ก่อนกลับเอารถไปคืนที่สนามบิน สามีชวนขับรถไปเที่ยวบนเขาในป่า เอาก็เอา ตาใจคุณสามีเค้าหน่อย เพื่อเป็นการฆ่าเวลาก่อนเครื่องบินออก ขับไปแถวไหนจำไม่ได้แล้อ่ะ
ขณะที่แล่นรถออกจากเมืองก็เก็บภาพประทับใจไปด้วย นั่นก็คือบ้านที่ปลูกสร้างลดหลั่นตามเนินเขา เอกลักษณ์ของเมืองนี้ หวังว่าเราคงได้กลับมาอีก

  


พอออกมาจากเมืองจะเข้าป่าก็เจอหมอกลงหนักเลย มองทางแทบไม่เห็น





 



แล้วเจอกันใหมทริปหน้า ที่โคโลราโดนะจ้ะ